ฮัจญ์ คืออะไร ทำไมมุสลิมต้องไปฮัจญ์ ?

พิธีฮัจญ์ ศาสนกิจสำคัญของอิสลามทั่วโลก

     การประกอบพิธีฮัจญ์ หรือ บูวะฮายี ตามภาษามลายูของชาวปัตตานี คือการเดินทางไปปฏิบัติศาสนากิจที่นครมักกะห์ อันเป็นเมืองที่ท่านศาสนามุฮัมมัด ได้เริ่มประกาศศาสนาอิสลาม ในเดือนซุลฮิจญะฮ์ (เดือน 12 ตามปฏิทินฮิจเราะห์) ตามวัน เวลา และสถานที่ต่าง ๆ ที่ทางศาสนาอิสลามได้กำหนอาไว้ ซึ่งศาสนากิจในข้อนี้ถือเป็นหน้าที่สำคัญที่ชาวมุสลิมทั้งชายและหญิงทุกคน ที่มีความพร้อมทางด้านร่างกายและทรัพย์สิน ควรจะต้องเดินทางไปสักครั้งในชีวิต

               ซึ่งผู้ที่เลื่อมใสศรัทธาในศาสนาอิสลามจำเป็นต้องปฏิบัติตามหลักห้าประการของศาสนา ซึ่งหลักห้าประการจะประกอบไปด้วย ปฏิญาณ, นมัสการ, ศีล, ทาน และบำเพ็ญพิธีฮัจญ์ ย่อมได้ชื่อว่ามุสลิม ที่หมายถึงผู้สยบต้นหรือผู้ที่นอบน้อมตน โดยปัจจัยหลักของการประกอบพิธีฮัจญ์นั้น คือการสร้างมิตรภาพที่ดีระหว่างมุสลิมทั่วโลก ที่แต่ละคนมักมีเชื้อชาติ ถิ่นฐาน และวัฒนธรรมที่แตกต่างกันออกไป ได้มารวมตัวกัน และได้ใช้ชีวิตในช่วงเวลาสั้น ๆ เพื่อร่วมกันปฏิบัติศาสนากิจที่มีเป้าหมายเดียวกับ นั่นก็คือ อัลลอฮ์ ซึ่งในช่วงฉัจญ์ ชามมุสลิมทั่วโลกจะเดินทางไปที่ซาอุดีอาระเบีย ก่อนอื่นต้องเริ่มด้วยการทำอิหรอม คือ การตั้งใจว่าจะทำพิธีฮัจญ์ ก่อนการเข้าไปยังแผ่นดินหะรอมซึ่งเป็นแผ่นดินต้องห้าม

ฮัจญ์ คืออะไร ทำไมมุสลิมต้องไปฮัจญ์ ?

               โดยจะต้องจะต้องปฏิบัติตามกฎต่าง ๆ เช่น การไม่สมสู่ ไม่ล่าสัตว์ในแผ่นดินหะรอม ไม่ตัดเล็บ ตัดผม ไม่เสริมสวยหรือใช้น้ำหอม ผู้ชายจะต้องเปลี่ยนเครื่องแต่งกายมาสวมผ้า 2 ผืน แล้วมาร่วมชุมนุมกันที่ทุ่งอะร็อฟะห์ในตอนเช้าตรู่ของวันที่ 9 เดือนซุลฮิจญะห์ เมื่อถึงเวลาค่ำเหล่านักแสวงบุญจะต้องเดินผ่านทุ่งมุซดะลิฟะห์ เพื่อพักครู่หนึ่งก่อนที่จะเริ่มมุ่งหน้าไปสู่ทุ่งมีนาก่อนเที่ยงของวันถัดไป

               แต่สำหรับชาวมุสลิมคนอื่น ๆ ที่ไม่ได้ไปประกอบพิธีฮัจญ์ ก็จะเฉลิมฉลองทำบุญเลี้ยงอาหารกันที่บ้าน โดยจะเรียกวันนี้ว่า ‘วันอีดิลอัฏฮา’ ที่จะมีการเชชือดสัตว์ให้ผู้คนได้รับประทานกันในยามดุฮา คือช่วงเวลาสายหลังพระอาทิตย์ขึ้นแต่ยังไม่ถึงเที่ยง หรือที่ชาวไทยมุสลิมใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้เรียกกันว่า วันรายอรายาฮาญี นั่นเอง

ฮัจญ์ คืออะไร ทำไมมุสลิมต้องไปฮัจญ์ ?

               นักแสวงบุญที่มีโอกาสเดินทางไปทำฮัจญ์จะพักกันอยู่ที่ทุ่งมีนาเป็นเวลาสามวัน เพื่อร่วมกันขอพรและบำเพ็ญตนตามพิธีฮัจญ์ หลังจากนั้นจึงเดินทางเข้านครมักกะห์เพื่อฏอวาฟ เวียนรอบ กะอฺบะฮ์ หรือที่เรียกว่า บัยตุลลอห์ ที่เป็นเหมือนเสาหลักของชุมทิศ ซึ่งตั้งอยู่ในมัสยิดฮะรอมที่ถือเป็นมัสยิดต้องห้าม หลังจากนั้นนักแสวงบุญจะต้องเดินจากเนินเขาศอฟา สู่เนินเขามัรวะห์ที่มีระยะทาง 450 เมตร เพื่อกล่าวคำขอพรและคำวิงวอนต่อพระผู้เป็นเจ้า เมื่อครบ 7 รอบแล้วและเสร็จสิ้นพิธีก็จะมีการขริบผมหรือโกนหัว แล้วผู้แสวงบุญก็จะหลุดพ้นจากภาวะอิฮรอมในที่สุดนั่นเอง

ข้อมูลจาก : คม ชัด ลึก

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *